วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2550


“สุทธิพล” ระบุจำเป็นต้องของบประมาณจากรัฐบาลก่อน เพื่อเตรียมการลงประชามติ แนะประชาชนตัดสินใจรับ ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญด้วยตัวเอง โดยดูจากเนื้อหา หากใช้เงินคว่ำร่างมีความผิดตามกฎหมายนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณให้ กกต. จำนวน 570 ล้านบาท เพื่อเตรียมการเรื่องการออกเสียงประชามติว่า งบประมาณในการออกเสียงประชามติที่ตั้งไว้ 1,500 ล้านบาท จะใช้ได้ต่อเมื่อสภาร่างรัฐธรรมนูญประกาศกำหนดวันออกเสียงประชามติที่ชัดเจน แต่ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศ แต่การเตรียมการต้องเดินหน้า กกต. จึงต้องขอให้คณะรัฐมนตรีอนุมัติเงินจำนวน 570 ล้านบาทก่อน เพื่อดำเนินการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ การจัดพิมพ์บัตรออกเสียงประชามติ บัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิ การลงทะเบียนออกเสียงนอกเขตจังหวัดที่จะต้องเริ่มแจ้งตั้งแต่วันที่ 10-19 กรกฎาคมนี้ ทั้งนี้ ประธาน กกต. ได้มีมติตั้งศูนย์ประชามติทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคส่วนกระแสข่าวการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ นายสุทธิพล เห็นว่า สิ่งที่ กกต. เน้น คือ ความสุจริต เป็นกลาง และต้องการให้ประชาชนมีจิตสำนึกนำพาประเทศชาติขับเคลื่อนให้พ้นวงจรวิกฤติ ดังนั้น การออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญจึงควรปราศจากการชี้นำของฝ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ควรนำร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 มาเปรียบเทียบกับรัฐธรรมนูญปี 2540 ก่อน ว่ามีข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร แล้วจึงมาชั่งน้ำหนักว่าจะออกเสียงประชามติอย่างไร“หากมีการชักชวนจากฝ่ายการเมืองให้คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ก็ขอให้ประชาชนอย่าหลงคำเชิญชวน แต่ควรพิจารณาศึกษาว่าร่างรัฐธรรมนูญดีหรือไม่ มีประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างไร ขอให้ตัดสินใจด้วยตัวเอง หากพบว่ามีการใช้เงินเพื่อให้ลงมติคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ กกต. จะดำเนินการเอาผิดตาม พ.ร.บ. ออกเสียงประชามติ หากพบเบื้องต้นจะส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนฯ ไปตรวจสอบข้อเท็จจริง” นายสุทธิพล กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น: